สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

สร้างสรรค์สู่อนาคตสีเขียว

การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของบริษัทในปีนี้ ส่งผลให้เราสามารถดำเนินกิจกรรมด้านความยั่งยืนได้อย่างครอบคลุม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่การเป็นสายการบินคาร์บอนต่ำชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราตระหนักถึงความเร่งด่วนในการเพิ่มความเข้มข้นของการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เพื่อรองรับความท้าทายทั้งภายในและภายนอกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงกดดันด้านกฎระเบียบและการแข่งขันในอุตสาหกรรม

บจ. ไทยแอร์เอเชีย เชื่อมั่นว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบขององค์กรและข้อกำหนดในการจัดทำรายงานเท่านั้น แต่เป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่เรายังคงทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้คนและวัฒนธรรมทั่วทั้งภูมิภาค เรามุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมให้มากที่สุด

การก้าวสู่ท้องฟ้าสีเขียวของเราประสบความสำเร็จที่สำคัญหลายประการ:

ความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม

• เราประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและการปรับปรุงฝูงบินให้ทันสมัยด้วยเครื่องบิน 321neo จำนวน 3 ลำในปี 2567
• ฝ่ายบริการบนเครื่องบินได้ปรับเปลี่ยนจากการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เป็นบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ นอกจากนี้ เราได้จัดโครงการ "Plastic Detox" เพื่อลดการใช้พลาสติกในสถานที่ทำงาน พร้อมทั้งให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการคัดแยกขยะผ่านโครงการ "Trash Lucky"
• เราได้เปลี่ยนรถบัสสำหรับบริการผู้โดยสารจากแบบดีเซลเป็นแบบไฮบริด ในสถานีเชียงใหม่และภูเก็ต รวมทั้งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะแบบไฟฟ้า (EV)

ความรับผิดชอบต่อสังคม

• ผลจากการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียชี้ให้เห็นว่า "สุขภาพและความปลอดภัย" เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด สถิติความสำเร็จของเราในการรักษาอัตราการเสียชีวิตเป็นศูนย์ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยมาตรการเชิงรุก เช่น แคมเปญ "Drive D we safe" และ "Fly D" ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนและส่งเสริมความตระหนักด้านความปลอดภัยในการบิน
• ในปี 2567 เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาและรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงและมีประสิทธิภาพ โดยได้เปิดตัวหลักสูตร "Leading People" และ "Leading Self" สำหรับการพัฒนาบุคลากรและการสืบทอดตำแหน่ง นอกจากนี้ เราได้จัดการแข่งขันในรูปแบบ "Shark Tank" เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม และเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราได้ประกาศนโยบายสิทธิมนุษยชนและริเริ่มโครงการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทานของเราอย่างเชิงรุก
• เรายังคงดำเนินโครงการ "Journey D" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีเป้าหมายในการยกระดับชุมชนด้วยการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ในปีนี้ เราได้ร่วมมือกับบริษัทเงินติดล้อ ปันโปรโมชั่น และฟายด์ โฟล์ค ในการเสริมสร้างความรู้ด้านการเงินและทักษะด้านการท่องเที่ยวให้แก่ชุมชนบ้านมุงเหนือ จังหวัดพิษณุโลก

ความเป็นเลิศด้านการกำกับดูแลกิจการ

• เรายึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดด้านการกำกับดูแลกิจการ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ กรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งของเราช่วยให้มั่นใจได้ว่า เป้าหมายด้านความยั่งยืนได้รับการผนวกรวมเข้ากับกระบวนการตัดสินใจของเรา
• เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เสาหลักด้านเศรษฐกิจ เราได้มุ่งมั่นยกระดับความพึงพอใจและความผูกพันของลูกค้า โดยกลยุทธ์หลักของเรามุ่งเน้นการผสานความยั่งยืนเข้าสู่ทุกมิติของประสบการณ์การเดินทางกับไทยแอร์เอเชีย ด้วยการนำเสนอคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราสามารถสร้างความแตกต่างและยกระดับการเดินทางของผู้โดยสารได้อย่างครบวงจร Capital A ได้พัฒนาแพลตฟอร์มบริการด้านการเดินทางและท่องเที่ยวอย่าง "AirAsia MOVE" เพื่อมอบประสบการณ์บริการการเดินทางแบบไร้รอยต่อ นอกจากนี้ เราได้ริเริ่มระบบการจัดการและควบคุมสัมภาระถือติดตัวขึ้นเครื่องเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขั้นตอนการเรียกขึ้นเครื่อง (Cabin Baggage Enforcement Project) ซึ่งช่วยเสริมสร้างความตระหนักของผู้โดยสาร ลดอุบัติการณ์การขนถ่ายสัมภาระ และเพิ่มประสิทธิภาพการตรงต่อเวลา อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับท่าอากาศยานไทย (AOT) ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ใบหน้า เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

เรามีความยินดีที่จะรายงานผลการประเมิน FTSE ครั้งแรก ภายใต้การดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับคะแนนที่น่าภาคภูมิใจที่ 3.7 จาก 5 คะแนน และอยู่ในระดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 79 ในส่วนการจัดอันดับ SET ESG Ratings ในปีนี้ ซึ่งประเมินโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เพิ่มขึ้นจาก 81 เป็น 83 คะแนน ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในมิติด้านเศรษฐกิจและสังคม การยกระดับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และการผลักดันแนวทางด้านสิทธิมนุษยชนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันเรายังไม่เข้าเกณฑ์การจัดอันดับกลุ่มหลักทรัพย์หุ้นยั่งยืน ESG เนื่องด้วยข้อพิจารณาด้านกำไรจากผลประกอบการ แต่เรายังมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี

เมื่อมองไปสู่อนาคต เป้าหมายของเราในปีถัดไป คือ การเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด และผลักดันให้ความยั่งยืนเป็นรูปธรรมมากขึ้น เราจะยังคงลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัย เสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นธรรม และเติบโตอย่างมั่นคงร่วมกัน