EN / TH

สุขภาพและความปลอดภัย

ความมุ่งมั่น

บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนากระบวนการดำเนินงาน ตลอดจนการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่สมรรถนะสูงสุดด้านความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร พนักงาน ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ความมุ่งมั่นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากนโยบายความปลอดภัย ระบบการจัดการด้านความปลอดภัย ระบบฝึกอบรมด้านความปลอดภัยอย่างครอบคลุมแก่พนักงานทุกคน รวมถึงผู้รับเหมา และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย รวมทั้งบริษัทมีการทบทวนและติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554

ระบบบริหารด้านความปลอดภัย

บริษัทมีระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยเพื่อปรับปรุงนโยบายด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าทุกเที่ยวบินนั้นปลอดภัยและเชื่อถือได้ ทั้งนี้การจัดการด้านความปลอดภัยทั้งหมดนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสอดคล้องกับนโยบายนิรภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ (State Safety Policy) โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นผู้ที่รับผิดชอบสูงสุดสำหรับระบบบริหารด้านความปลอดภัย และคณะกรรมการบริหารจะทำการทบทวนข้อมูลประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่สำคัญเป็นประจำทุกไตรมาส

ขอบเขตในการดำเนินงานของระบบบริหารการจัดการด้านความปลอดภัย

ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก

นโยบายและวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย
ปฏิบัติงานด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตลอดเวลา โดยให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและ มาตรฐานสากล
สร้างสิ่งแวดล้อมและสถานที่ปฏิบัติงาน ตลอดจนกระบวนการปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอ
พร้อมสนับสนุนและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย
ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้วยการฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยภายในองค์กร โดยเริ่มจากการสร้างพฤติกรรมส่วนบุคคล เพื่อก่อเกิดจิตสำนึกที่ตระหนักถึงความปลอดภัย

การจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

เพื่อสามารถควบคุมความเสี่ยงและจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้นั้น จะมี 2 ขั้นตอน ด้วยกัน คือ

1. ชี้บ่งอันตราย เพื่อค้นหาและจำแนกลักษณะ ขั้นตอน สาเหตุ และองค์ประกอบของสภาวะที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ และมีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ มีการเผยแพร่ผลการวิเคราะห์ภาวะอันตรายนั้นอย่างเป็นระบบ

2. ประเมินและลดความเสี่ยง นำข้อมูลมาประเมินความเสี่ยงว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถยอมรับได้หรือไม่ (Safety Risk Assessment) หากอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้ก็จะนำมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกัน หรือลดความเสี่ยงนั้น (Mitigation) ต่อไป

การส่งเสริมด้านความปลอดภัย

บจ. ไทยแอร์เอเชีย ตระหนักดีว่าการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยต้องสร้างเสริมและปลูกฝังให้มั่นคง แนบแน่น ให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้น จึงมุ่งเน้นสร้างจิตสำนึกให้พนักงานทุกคน ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานระดับปฏิบัติงานได้เข้าใจบทบาทของตนเอง และมีความระแวดระวังในการทำให้เกิดความปลอดภัยอยู่เสมอ โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ตามกฎหมายกำหนด เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความรู้ มีความชำนาญ ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับระบบการจัดการด้านความปลอดภัยได้อย่างมืออาชีพ

2. สื่อสารและประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัย จัดกิจกรรมเพื่อสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย เพื่อทำความเข้าใจและส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยร่วมกัน

ผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัย

ในปี 2566 บจ. ไทยแอร์เอเชีย ได้ดำเนินงานด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ และได้รับความร่วมมือจากพนักงานทั้ง 4,962 คน จากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี โดยมีผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของบริษัทตามดัชนีชี้วัด ดังนี้

ดัชนีชี้วัดด้านความปลอดภัยของพนักงาน (SPIs) 2564 2565 2566
เป้าหมาย ผลลัพธ์ เป้าหมาย ผลลัพธ์ เป้าหมาย ผลลัพธ์
ชั่วโมงการทำงาน (ชั่วโมง) 2,681,784 *จำนวนชั่วโมงการทำงานลดลงเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 7,119,580 9,446,608
จำนวนการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน (ครั้ง) - 10 - 29 - 11
อัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน (ครั้งต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 4.96 4.17 5.51 4.49 4.04 4.45
จำนวนการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงานของพนักงาน บจ. ไทยแอร์เอเชีย (ครั้ง) 0 0 0 0 0 0
อัตราการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงาน (ครั้งต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 0 0 0 0 0 0
จำนวนการเกิดโรคอันเนื่องมาจากการทำงาน (ครั้ง) 0 0 0 0 0 1
อัตราการเกิดโรคอันเนื่องมาจากการทำงาน (จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่เจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงานต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 0 0 0 0 0 0.11
จำนวนของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (ครั้ง) - 5 - 8 - 11
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากกการทำงาน ต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) (LTIFR) 1.94 2.08 1.65 1.12 1.12 1.16

ในส่วนอัตราความถี่ของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณเที่ยวบินและการให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถูกนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก รวมทั้งนำมาเป็นกรณีศึกษาสื่อสารกับพนักงานเพื่อเน้นย้ำไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ

ทั้งนี้การควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับเหมาและผู้ค้าเพื่อเป็นการดำเนินการแก้ไขป้องกันอันตรายจากการทำงานต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีดัชนีชี้วัด ดังต่อไปนี้

ดัชนีชี้วัดด้านความปลอดภัยของผู้รับเหมา (SPIs) 2564 2565 2566
เป้าหมาย ผลลัพธ์ เป้าหมาย ผลลัพธ์ เป้าหมาย ผลลัพธ์
ชั่วโมงการทำงาน (ชั่วโมง) 1,001,875 1,255,639 1,779,096
จำนวนการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน (ครั้ง) - 1 - 6 - 3
อัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน (ครั้งต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 0.80 0.42 0.28 0.93 0.84 1.05
จำนวนการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงานของพนักงาน บจ. ไทยแอร์เอเชีย (ครั้ง) 0 0 0 0 0 0
อัตราการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงาน (ครั้งต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 0 0 0 0 0 0
จำนวนการเกิดโรคอันเนื่องมาจากการทำงาน (ครั้ง) 0 0 0 0 0 1
อัตราการเกิดโรคอันเนื่องมาจากการทำงาน (จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่เจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงานต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) 0 0 0 0 0 0
จำนวนของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (ครั้ง) 0 0 0 0 0 0
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากกการทำงาน ต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) (LTIFR) 0 0 0 0 0 0

ระบบการป้องกันของสายการบิน

บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีระบบการป้องกันด้านความปลอดภัยที่มีกระบวนการทำงานร่วมกัน 3 ระบบอย่างมีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายเพื่อลดความเสียหายและบาดเจ็บที่เกิดจากการทำงาน เพื่อทำให้พนักงาน ผู้โดยสาร มั่นใจด้านความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่

ระบบการป้องกัน
ระบบการจัดการคุณภาพ
ทำให้มั่นใจ เพราะการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบการจัดการความปลอดภัย
ป้องกันอากาศยานอุบัติเหตุและเหตุการณ์โดยการควบคุมความเสี่ยง
ระบบการรักษาความปลอดภัย
ปกป้องการกระทำของผิดกฏหมายหรือรบกวนผู้โดยสาร
ผลที่ได้คือ
ความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การจัดการคุณภาพ

มุ่งเน้นการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องตามกฎระเบียบที่กำหนดเอาไว้ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้โดยสาร รวมถึงระบุความต้องการในการปฏิบัติงานและอันตรายที่จะเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงาน ทั้งนี้การจัดการคุณภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาการดำเนินงานที่สอดคล้องตามระเบียบ และมีการควบคุมให้ตรงกับความต้องการ

การประกันคุณภาพ

มุ่งเน้นคุณภาพก่อนการให้บริการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. กระบวนการพัฒนา
  2. การตรวจสอบทรัพยากร
  3. การตรวจสอบการเพื่อประกันความปลอดภัย โดยเฉพาะประสิทธิภาพของการควบคุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
  4. การทดสอบความสามารถของบุคลากร (รวมถึงผู้ให้บริการภายนอก)
  5. การทดสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎระเบียบ

กระบวนการประกันความปลอดภัย

มุ่งเน้นส่งเสริมการประกันคุณภาพ เพื่อวิเคราะห์ ควบคุมเอกสาร การตรวจสอบ และการจัดการการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ในขณะที่การจัดการความปลอดภัย (Safety Management) มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพความปลอดภัย วัตถุประสงค์ของการจัดการความปลอดภัย คือ สามารถระบุอันตรายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ประเมินความเสี่ยง และดำเนินการควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเหตุการณ์

การจัดการความปลอดภัย รวมถึงการประกันความปลอดภัย เช่นเดียวกับการประกันคุณภาพ โดยมีข้อกำหนด ดังนี้

  1. ควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
  2. ระบุความต้องการในการปฏิบัติงาน ปรับปรุง แก้ไขพื้นที่อันตราย และระบบความปลอดภัย รวมถึงการจัดการเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน

การรักษาความปลอดภัย

บริษัทพัฒนามาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยทางการบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การประเมินความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอเป็นแนวทางในการดำเนินงานของบริษัท และบริษัททดสอบระบบต่างๆ อย่างเข้มงวดตามแผนของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาใดๆ ได้อย่างทันท่วงที

ความปลอดภัยในอาหาร

ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการบนเครื่องบินพร้อมความปลอดภัยด้านอาหาร

ความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการ จัดเก็บ และเตรียมอาหารเพื่อป้องกันอันตราย การติดเชื้อ และช่วยให้แน่ใจว่าอาหารที่ให้บริการบนเครื่องบินมีสารอาหารเพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

บริษัทยังคงเฝ้าติดตามและบันทึกความคิดเห็นของผู้โดยสารอยู่เสมอเพื่อปรับปรุงระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าอาหารทุกมื้อปลอดภัยต่อการบริโภคเป็นไปตามมาตรฐานอาหารสากล IFSA และกฎระเบียบด้านอาหารของประเทศปลายทาง เช่น จีน ยุโรป และกฎระเบียบของ องค์การอาหารและยา แห่งราชอาณาจักรไทย

การควบคุมดูแลความปลอดภัยของอาหาร

อาหารบนเครื่องบินได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารมากกว่า 3 ล้านมื้อต่อปี ดังนั้น อาหารที่จะส่งถึงมือผู้โดยสารจะต้องปลอดภัยทั้งสี่ด้าน คือ ทางด้านกายภาพ ทางด้านชีวภาพ ทางด้านสารเคมี และด้านสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด มาตรฐานสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร GHPs (Good Hygiene Practice) และ มาตรฐานระบบวิเคราะห์อันตรายอาหารและจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม HACCP (Hazard Analysis Cricital Control Points) ตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การ อนามัยโลก (WHO) ปัจจุบันฝ่ายสินค้าและบริการบนเครื่องบิน (In-Flight Service) ได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าวที่เป็นข้อกำหนดล่าสุดในระดับสากลจากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ ในปี 2566

ภาพรวมกระบวนการทำงาน

ห่วงโซ่อุปทานและปฏิบัติงานในแผนกสินค้าและบริการบนเครื่องบิน

มาตรการรองรับโรคระบาดโควิด-19

บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีแผนการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวและมีมาตรการรองรับในทุกภาคส่วนเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโช่อุปทาน บริษัทได้มีการจัดตั้งคณะปฏิบัติงานพิเศษเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงกำหนดแผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาด รวมทั้งบริษัทได้จัดทำเอกสาร โควิด-19 Operational Guidance Handbook สำหรับฝ่ายปฏิบัติการบินและฝ่ายลูกเรือเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการบริหารจัดการ

การป้องกันการติดเชื้อของพนักงาน

ตามที่ได้มีการประกาศตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสุขภาพอนามัยของพนักงานและสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่ดีของส่วนรวม รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาด ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมองค์กรจึงได้มีนโยบายให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการจากภาครัฐและบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยประกาศแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันส่วนบุคคลและมาตรการเพิ่มเติมให้พนักงานทราบอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศ

แนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับพนักงาน

ฝ่ายความปลอดภัยได้จัดทำแนวทางในการปฏิบัติตัวของพนักงาน เพื่อสุขอนามัยของพนักงาน และสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่ดีของส่วนรวม รวมถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมองค์กรมีนโยบายให้กับพนักงานปฏิบัติตามมาตรการจากภาครัฐและบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยมีประกาศมาตรการเพิ่มเติมให้กับพนักงานทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศ

นอกจากนั้น บริษัทขอให้พนักงานทุกมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากภาครัฐอย่างเคร่งครัด มีระเบียบวินัยในการทำงานอย่างเต็มศักยภาพและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง